ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2563 ถือเป็นปีแห่งความผันผวนหลังดัชนีหุ้นหลาย ๆ ตัวทำสถิตินิวโลในรอบหลาย ๆ ปี แต่ก็มีหุ้นของบริษัทหนึ่งที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากทั้งจากนักลงทุนรายย่อยรวมถึงนักลงทุนต่างประเทศก็ตาม
นั่นก็คือ หุ้น DELTA ของบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ธุรกิจหลักของ DELTA คือ เป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม อาทิ อุปกรณ์ทางการแพทย์, อุปกรณ์สำนักงาน, อุตสาหกรรมยานยนต์ และโทรคมนาคม โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่หุ้น DELTA นั้นถูกจับตามองเป็นพิเศษคือการคาดการณ์จากนักลงทุนถึงประโยชน์ที่ DELTA จะได้รับจากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนในรถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์เทคโนโลยีในปัจจุบันนั่นเอง
ในส่วนของราคาหุ้นในปี 2563 หุ้น DELTA ราคาได้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 27 บาท ในช่วงเดือนมีนาคมอันเป็นจุดเริ่มต้นวิกฤติการระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย และหลังจากนั้นราคาค่อย ๆ ฟื้นตัวและพุ่งแรงในช่วงปลายปี 2563 หลังจากเกิดการเก็งกำไรจากนักลงทุนจนราคาหุ้น DELTA สามารถขึ้นไปทำ “All time high” ที่ 838 บาทต่อหุ้น ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 และเจอแรงเทขายทำกำไรจนทำให้ราคาหุ้นลงมาอยู่ที่ 486 บาทต่อหุ้น ณ 31 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา
อนึ่งจากการปรับตัวราคาของหุ้นที่ DELTA ที่ขึ้นมากกว่า 20 เท่า จากจุดต่ำสุดในช่วงต้นปี ส่งผลให้มูลค่าของ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) นั้นทะยานขึ้นไปอยู่อันดับ 1 บริษัทมูลค่าสูงสุดอยู่พักนึง แต่หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงก็ยังสามารถติด “TOP 5 บริษัทมูลค่าสูงสุดประเทศไทย ปี 2563” โดยอยู่ในอันดับ 3
สำหรับ 5 อันดับบริษัทมูลค่าสูงสุดประเทศไทย ประจำปี 2563 มีดังนี้ ( ข้อมูล ณ 30 ธันวาคม 2563 )
1. PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 1,213,927 ล้านบาท
2. AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 889,284 ล้านบาท
3. DELTA บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 606,227 ล้านบาท
4. ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 523,345 ล้านบาท
5. CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 523,265 ล้านบาท
