Forex คืออะไร จะเริ่มต้นเทรดได้อย่างไร สรุปความรู้พื้นฐาน Forex ใน 5 นาที
Forex คือตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นักลงทุนทั่วโลกรวมถึงสถาบันจะทำการซื้อขาย เก็งกำไร แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างๆ ซึ่งนักลงทุนรายย่อยสามารถเข้ามาเทรด Forex ได้โดยทำการเปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ที่ได้รับการอนุญาต ข้อดีของการเทรด Forex คือเราสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง และใช้เงินเริ่มต้นน้อย
เปิดบัญชีเทรด Forex ที่ไหนดี
ควรเลือกเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและได้รับการรับรองเท่านั้น ปัจจุบันโบรคเกอร์ที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆของนักเทรดชาวไทยและหลายประเทศในแถบเอเชียคือ Exness เมื่อสมัครแล้วสามารถเปิดบัญชี demo เพื่อทดลองเทรดฟรี (โดยทาง Exness จะมีเงินจำลองในพอร์ทให้ทดลองเทรด $10,000) หรือถ้าเริ่มมั่นใจแล้วสามารถเปิดเป็นบัญชีจริงแบบ Standard ซึ่งเราจะต้องโอนเงินจริงเข้าไปเทรด (โอนเงินเข้าพอร์ทขั้นต่ำเพียง $10 ก็เริ่มเทรดได้) จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เทรดกับ Exness มาได้ซักระยะ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ก็พบว่าให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเลยทีเดียว รวมถึงทีม support คนไทยที่เข้าถึงได้ง่ายและตอบปัญหาได้รวดเร็ว
สมัครเปิดบัญชีเทรด Forex กับทาง Exness คลิ๊กที่นี่
ข้อดีของการเปิดบัญชีกับ Exness
- สมัครง่าย ใช้เวลายืนยันตัวตนภายใน 5 นาที
- โอนเงินเข้าพอร์ทได้รวดเร็วทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน
- โอนเงินเข้าพอร์ทง่ายดายได้หลายช่องทาง รวมถึงผ่าน mobile banking ของธนาคารไทย
- มีพนักงานคนไทยให้บริการตอบคำถามต่างๆ
- เปิดให้บริการมายาวนาน มีสาขาในหลายประเทศ
- มีความน่าเชื่อถือและได้รับใบอนุญาตและกำกับดูแลจากสำนักงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของประเทศอังกฤษ (FCA)
Forex โบรกเกอร์ มีสินค้าอะไรให้เทรดบ้าง
สินค้าที่มีให้เทรดในแต่ละโบรกเกอร์หลักๆแล้วจะคล้ายคลึงกัน คือจะเป็นคู่เงิน เช่น คู่สกุลเงิน ยูโร/ดอลล่าร์สหรัฐ (EUR/USD), ปอนด์อังกฤษ/ดอลล่าร์สหรัฐ (GBP/USD) ทองคำต่อดอลล่าร์สหรัฐ (XAU/USD) หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี อย่าง Bitcoin และ Ethereum ก็มีให้เทรด อย่างไรก็ตามมือใหม่ควรเริ่มต้นเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD ก่อนเพราะเป็นคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด ทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง
เราจะทำกำไรจาก Forex ได้อย่างไร
การทำกำไรถ้าเราวิเคราะห์ว่าราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มจะสูงขึ้น
ถ้าในการณีที่เรามองแล้วว่าสกุลเงิน EUR น่าจะแข็งตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับ USD เราก็จะทำการเปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) EUR/USD ที่ราคาขณะนั้น สมมติว่าเท่ากับ $1.1 (ซึ่งหมายถึงการซื้อเงินยูโร 1 ยูโร ด้วยเงินจำนวน 1.1 ดอลล่าห์สหรัฐ) แล้วเวลาผ่านไปซักระยะราคาของ EUR/USD เกิดขึ้นไปที่ $1.2 แล้วเราทำการปิดออเดอร์ (Close) เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่างนั้น (คือเงิน 1 ยูโร สามารถแลกดอลล่าห์ได้มากขึ้น) ถือเป็นการทำกำไรเมื่อราคาสูงขึ้นจากราคาที่เราซื้อ
การทำกำไรถ้าเราวิเคราะห์ว่าราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มจะลดลง
ในทางกลับกันถ้าเราคิดว่าราคาของสกุลเงิน EUR น่าจะลดลงและ USD น่าจะแข็งขึ้น เราเริ่มด้วยการเปิดออเดอร์ขาย (Sell) EUR/USD ที่ราคา $1.1 (ซึ่งหมายถึงการขายเงิน 1 ยูโรที่ราคา 1.1 ดอลล่าห์สหรัฐ) แล้วเวลาผ่านไปซักระยะราคาของ EUR/USD ลงไปที่ $1.0 แล้วเราทำการปิดออเดอร์ (Close) เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่างครั้งนี้ (เหมือนเราขายตอนราคาแพงแต่แรก และมาซื้อกลับราคาถูก เราจึงได้กำไรในส่วนต่างราคาช่วงที่ราคาลง) ถือว่าเป็นการทำกำไรเมื่อราคาต่ำกว่าที่เราเปิดออเดอร์
การคำนวนกำไรจริง (หรือขาดทุน) ที่ได้ในการเทรด Forex แต่ละครั้งนั้น จะมีปัจจัยต่างๆมาเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องขนาดของสัญญา (จำนวน Lot Size) และ leverage ที่เรากำหนด ซึ่งได้อธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อข้างล่างดังต่อไปนี้
สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นก่อนจะเทรด Forex
Lot กับขนาดของสัญญา
ในการเทรดแต่ละครั้งเราจะต้องเลือกขนาดสัญญา โดยการกำหนดขนาด Lot size ก่อนการส่งคำสั่งซื้อขาย
- สัญญา 1 Lot เท่ากับ 100,000 unit ของสกุลเงินหลัก
- สัญญา 0.10 lot เท่ากับ 10,000 unit ของสกุลเงินหลัก
- สัญญา 0.01 lot เท่ากับ 1,000 unit ของสกุลเงินหลัก
โดยปกติแล้วถ้าเกิดไม่มีการใช้ Leverage เลย ถ้าเราจะเปิดสัญญาคู่สกุลเงิน EUR/USD จำนวน 1 Lot เราต้องใช้เงินราวๆ 100,000 ยูโรในการเปิดสัญญา (ขึ้นอยู่กับเรทของค่าเงินสกุลหลัก ณ.ขณะนั้น) ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เงินลงทุนซื้อขายที่สูงมาก แต่ว่าทางโบรกเกอร์ Forex ต่างๆ ได้อนุญาตให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถใช้ Leverage ในการเทรดได้ทำให้เราไม่ต้องสำรองเงินทุนเต็มจำนวนในการเทรด
Leverage & Margin
การซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั่วๆไปเช่นหุ้น ทองคำ ๆลๆ เราต้องชำระเงินเต็มจำนวน แต่ในโลกของ Forex โบรกเกอร์จะให้เครดดิตกับเทรดเดอร์รายย่อยหรือเรียกว่า Leverage โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Leverage เท่าไหร่ในการเทรด เช่น 1:50, 1:100, 1:500
สมมติเรามีเงินทุนเริ่มต้นในการเทรดเพียง $1,000 ถ้าเราเลือกว่าจะใช้ Leverage 1:100 ก็จะเสมือนว่าเรามีเงินลงทุนเทรดได้ถึง $100,000 ($1000 x 100) โดยวางเงินแค่หนึ่งส่วนร้อย เมื่อมีการซื้อขายสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะไม่ต้องชำระเงินเต็มจำนวน โดยจะชำระแค่ยอดกำไรขาดทุนที่ต้องจ่าย ซึ่งยอดขาดทุนนั้นจะไม่เกินจำนวน Margin หรือเงินทุนที่เราวางไว้นั่นเอง เวลาเทรดจริงถ้าเราเทรดถูกทาง เราก็จะสามารถทำกำไรได้ไม่จำกัด แต่ถ้าเทรดผิดทางอย่างมากเราก็เสียแค่เงินต้น $1000
PIP (Point in Percentage)
PIP (อ่านว่า ปิ๊ป) คือหน่วยของการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของราคา สมัยก่อนคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ในโลกของ Forex จะมีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 4 ตำแหน่ง ซึ่ง PIP คือการเปลี่ยนแปลงของจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 4
เช่น คู่สกุลเงิน EUR/USD วิ่งจาก 1.0001 ไป 1.0002 (ราคาขยับเพิ่มขึ้น $0.0001) เป็นการเพิ่มขึ้น 1 PIP
การเปลี่ยนแปลง 1 PIP ก็คือการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่สกุลเงินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 หน่วยของเลขทศนิยมตำแหน่งที่ 4 แต่ปัจจุบันโบรกเกอร์หลายแห่งได้มีการเพิ่มเลขทศนิยมในหลักที่ 5 ซึ่งเรียกว่า point (จุด) โดยที่ 1 PIP เท่ากับ 10 Point นั่นเอง
เช่น คู่สกุลเงิน EUR/USD วิ่งจาก 1.00010 ไป 1.00020 เป็นการเพิ่มขึ้น 1 PIP หรือ 10 Point
สำหรับบัญชี Standard
ซื้อขาย 1 Lot ถ้าราคาขยับขึ้นหรือลง 1 PIP เท่ากับ $10
ซื้อขาย 0.1 Lot ถ้าราคาขยับขึ้นหรือลง 1 PIP เท่ากับ $1
ซื้อขาย 0.01 Lot ถ้าราคาขยับขึ้นหรือลง 1 PIP เท่ากับ $0.10
ตัวอย่างการคำนวนผลกำไรที่ได้จากการเทรด
ตัวอย่างที่หนึ่ง
สมมุติว่าเราใช้เงื่อนไขการเทรดดังนี้
- Leverage 1:100
- เทรด Lot size = 1 Lot
- เราเปิดออเดอร์ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.10000 และในวันต่อมาราคาเกิดขึ้นไปที่ 1.10100 เราจึงปิดออเดอร์ทันที
ผลลัพธ์คือเราจะได้กำไรเท่ากับ $100
วิธีการคำนวนก็เพียงแค่นำราคาปิด ลบ ราคาเปิด เพื่อหาส่วนต่างราคา
1.10100 – 1.10000 = 0.00100
ได้ส่วนต่างราคาเท่ากับ 0.00100 หรือคิดเป็น 10 PIP (หรือ 100 Point)
สำหรับบัญชี Standard ซื้อขาย 1 Lot ถ้าราคาขยับขึ้นหรือลง 1 PIP เท่ากับ $10 นำมาคูณ 10 PIP เท่ากับกำไร $100
ตัวอย่างที่สอง
สมมุติว่าเราใช้เงื่อนไขการเทรดดังนี้
- Leverage 1:100
- เทรด Lot size = 0.1 Lot
- เราเปิดออเดอร์ Sell EUR/USD ที่ราคา 1.00000 และในวันต่อมาราคาเกิดลงไปที่ 0.99900
ผลลัพธ์คือเราจะได้กำไรเท่ากับ $10
วิธีการคำนวนก็เพียงแค่นำราคาปิด ลบ ราคาเปิด เพื่อหาส่วนต่างราคา
1.00000 – 0.99900 = 0.00100
ได้ส่วนต่างราคาเท่ากับ 0.00100 หรือคิดเป็น 10 PIP (หรือ 100 Point)
สำหรับบัญชี Standard ซื้อขาย 0.1 Lot ถ้าราคาขยับขึ้นหรือลง 1 PIP เท่ากับ $1 นำมาคูณ 10 PIP เท่ากับกำไร $10
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเทรด
ปกติแล้วเราสามารถส่งคำสั่งในการซื้อขาย Forex ได้ทั้งทางเว็บไซต์ และ App ของโบรกเกอร์ที่เราเป็นสมาชิกโดยตรง รวมถึงการเทรดผ่าน app MetaTrader ที่เราสามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ทั้งบนโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ของเรา โดยโบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่จะ support การเทรดบน MetaTrader อยู่แล้ว ซึ่งข้อดีของ MetaTrader คือมีฟังชั่นช่วยในการเทรดมากมาย และมี Indicator ที่หลากหลายกว่าบน App ของโบรคเกอร์นั้นๆเอง
ภาพข้างล่างแสดงหน้าจอในการเทรดของ Exness mobile app ซึ่งมีฟังชั่นใช้งานเพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้นเทรด สามารถทำการซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายดายและรวดเร็ว รูปซ้ายมือจะแสดงกราฟราคาของคู่สกุลเงิน ส่วนรูปด้านขวาแสดงผลิตภัณฑ์ยอดนิยมต่างๆที่มีให้เทรดใน Exness ไม่ว่าจะเป็นค่าเงิน ทองคำ หรือแม้แต่คริปโตก็มีให้เทรด
สิ่งสำคัญอื่นๆที่ควรรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex
- ควรเริ่มเทรดด้วยบัญชี demo ให้คล่องก่อนถึงค่อยเทรดด้วยบัญชี standard ด้วยเงินจริง
- สำหรับผู้ที่เทรดบัญชี standard แล้ว ควรเริ่มเทรดด้วยเงินทุนเริ่มต้นน้อยๆก่อนไม่เกิน $100 โดยใช้ leverage ต่ำๆ และเริ่มต้นซื้อขายที่ 0.01 lot จนกว่าจะคล่องถึงค่อยเพิ่ม Lot เป็น 0.02, 0.03 ไม่ควรเกิน 0.05 และถ้าคล่องขึ้นถึงค่อยเพิ่มเงินทุนมากขึ้น และเทรดที่ lot ใหญ่ขึ้น เช่น ทุน $1000 เทรด Lot ไม่เกิน 0.50 ถ้าเทรดด้วย Lot Size และ Leverage ที่สูงมากโดยใช้ทุนน้อยๆ จะทำให้พอร์ทแตกได้ง่าย ซึ่งจะทำให้เสียเงินลงทุนทั้งหมดไป
- ควรศึกษาเรื่องของ Money Management รู้จัก take profit และ cutloss ในจุดที่เหมาะสม
- ควรศึกษาการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และติดตามข่าวการเงินที่มีผลกระทบกับค่าเงินของประเทศต่างๆเป็นระยะ เช่น ถ้าเทรดคู่เงิน EUR/USD ก็ควรติดตามข่าวประกาศอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ นโยบายเศรษฐกิจจาก FED, ECB และอื่นๆ
- ศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค อ่านกราฟแท่งเทียน ศึกษาเรื่อง price pattern, trend following และ แนวรับ แนวต้านของราคา เทรดเดอร์บางคน ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลักโดยแทบไม่ได้สนใจปัจจัยพื้นฐานเลยก็มี เนื่องจากประหยัดเวลาในการเทรดมากกว่าการติดตามข่าวสาร โดยเทรดเดอร์สายเทคนิคบางคนเชื่อว่า เหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงข่าว ได้สะท้อนอยู่ในราคาบนกราฟทั้งหมดแล้ว ก่อนที่ข่าวต่างๆจะประกาศออกมาสู่สาธารณชน
สมัครเปิดบัญชีเทรด Forex กับทาง Exness คลิ๊กที่นี่