สำหรับคนที่ชื่นชอบภาพยนต์แนว Sci-Fi สำรวจอวกาศ ไม่เน้น action หรือสงคราม ทางเราขอแนะนำ สุดยอดภาพยนต์ Sci-Fi 5 เรื่องต่อไปนี้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวแนววิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ปรัชญา และยังแฝงแง่คิดดีๆ ผ่านบทภาพยนต์ที่ยอดเยี่ยมและสมจริง
1. Contact (1997)
นักแสดง: Jodie Foster, Matthew McConaughey, Tom Skerritt
ประเภทหนัง: Drama, Mystery, Sci-Fi
ผลงานการกำกับของ Robert Zemeckis (ซึ่งเคยกำกับเรื่อง Back to the Future และ Forest Gump) โดยหนังเรื่องนี้ดัดแปลงจากผลงานนิยายวิทยาศาสตร์ขึ้นหิ้งของ Carl Sagan ที่เขียนเมื่อปี 1985 เป็นหนึ่งในหนังที่นำเสนอเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ดาราศาสตร์ รวมถึงการตั้งคำถามต่อมนุษย์ชาติถึงความเชื่อบางอย่าง หนังให้แง่คิดต่างๆมากมาย
เรื่องย่อ
ดร. Ellie Arroway (รับบทโดย Jodie Foster) นักวิทยาศาสตร์สาวจากโครงการ SETI ผู้เชื่อว่า ในจักรวาลนี้ต้องมีมนุษย์ต่างดาวอยู่ที่ไหนสักแห่ง โดยเธอได้พยายามส่งสัญญาณออกไปนอกโลก และตรวจจับหาคลื่นสัญญาณจากต่างดาว เพื่อค้นหาชีวิตหรือสิ่งทรงภูมิปัญญาในจักรวาล ต่อมาเธอสามารถจับคลื่นความถี่พิเศษที่ตอบกลับมาหาเธอได้ เธอจึงได้เดินทางโดยยานอวกาศไปสู่ดวงดาวเป้าหมาย เพื่อพิสูจน์ว่ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่ที่นั่น แต่เมื่อถึงเวลาทำการปล่อยยานจริง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น
2. Moon (2009)
นักแสดง: Sam Rockwell, Kevin Spacey, Dominique McElligott
ประเภทหนัง: Drama, Mystery, Sci-Fi
ผลงานการกำกับของ Duncan Jones (ซึ่งเคยกำกับเรื่อง Source Code) ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นหนังทุนสร้างน้อย ไม่ได้มี visual effect ที่อลังการ และตัวแสดงหลักมีแค่คนเดียว แต่ก็เป็นหนัง Sci-Fi ชั้นดี หนังให้อารมณ์ลึกลับ น่าค้นหา มีความดาร์ค แล้วก็มีจุดหักมุมอยู่พอสมควร ฉากในหนังดูคลาสสิคและได้รับอิทธิพลมาจากหนัง Sci-Fi ขึ้นหิ้งอย่าง 2001: A Space Odyssey (1968)
เรื่องย่อ
เมื่อโลกถูกมนุษย์ผลาญทรัพยากรบนโลกจนเกือบหมด มนุษย์จึงจำเป็นต้องต้องแสวงหาพลังงานธรรมชาตินอกโลก ซึ่งบริษัท Lunar Industries ได้ค้นพบแร่ธาตุ Helium-3 บนดวงจันทร์ และได้ทำการเปิดสถานีอวกาศบนดวงจันทร์เพื่อนำแร่ธาตุกลับมายังโลก โดยได้ส่ง Sam Bell มนุษย์โลกเพียงคนเดียวขึ้นไปประจำการที่นั่น พร้อมกับหุ่นยนต์ของบริษัทที่ชื่อ GERTYโดยเมื่อทำงานครบ 3 ปี ถึงจะหมดสัญญาและสามารถเดินทางกลับโลกได้ โดยในระหว่างที่เหลือเวลาปฏิบัติงานเพียง 2 สัปดาห์ก่อนจะหมดสัญญา Sam ได้ขับรถออกสำรวจดวงจันทร์ และประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมากลับพบว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวบนดาวดวงนี้ นอกจากนี้เขายังค้นพบว่าโลกบนดวงจันทร์ของเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
3. Gravity (2013)
นักแสดง: Sandra Bullock, George Clooney, Ed Harris
ประเภทหนัง: Drama, Sci-Fi, Thriller
ผลงานการกำกับของ Alfonso Cuarón (ซึ่งเคยกำกับเรื่อง Children of Men) จุดเด่นของภาพยนต์เรื่องนี้คือ การถ่ายทำแบบ long take ฉากในอวกาศที่สมจริง มีมุมกล้องที่ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องเข้าใจง่าย ดูสนุก ได้ลุ้นและเอาใจช่วยตัวเอกในการเอาตัวรอดยามสถานการณ์คับขัน รวมถึงเป็นหนังที่ให้ความหวังในการต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิตอีกด้วย
เรื่องย่อ
ทีมนักบินอวกาศที่นำโดย ดร. Ryan Stone (รับบทโดย Sandra Bullock) และ Matt Kowalski (รับบทโดย George Clooney) ซึ่งกำลังปฏิบัติภาระกิจซ่อมแซมกล้องโทรทัศน์อวกาศ แต่ในระหว่างปฏิบัติงานได้ปรากฎเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน มีเศษซากขยะอวกาศลอยเข้ามาพุ่งชนยานอวกาศจนไม่สามารถกลับโลกได้ ดร. Ryan และ Matt ต้องอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก ลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ และพวกเค้ามีพลังงานที่จำกัด รวมถึงออกซิเจนที่มีก็ใกล้หมด พวกเขาจะทำเช่นไรเมื่อที่จะสามารถเอาตัวรอดกลับไปยังโลกได้
4. Interstellar (2014)
นักแสดง: Matthew McConaughey, Anne Hathaway, Jessica Chastain
ประเภทหนัง: Adventure, Drama, Sci-Fi
ผลงานการกำกับของ Christopher Nolan (ผู้กำกับ Inception, Tenet และ The Dark Knight) จุดเด่นของภาพยนต์เรื่องนี้คือฉากอวกาศที่ยิ่งใหญ่งดงาม และดนตรีประกอบที่ได้อารมณ์ หนังยังมีความเป็นดราม่าซึ่งแสดงถึงความรักความผูกพันระหว่างพ่อ ลูก รวมทั้งเนื้อเรื่องตั้งอยู่บนพื้นฐานทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์
เรื่องย่อ
เมื่อโลกในอนาคตเต็มไปด้วยภัยพิบัติ ความอดอยาก และความแห้งแล้ง มนุษย์จึงจำเป็นต้องแสวงหาหนทางในการอยู่รอดโดยการเดินทางไปในอวกาศ เพื่อค้นหาดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมในการดำรงชีวิตของมนุษย์ นักบินอวกาศได้ค้นพบรูหนอนซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเดินทางไปในดวงดาวไม่มีมนุษย์คนใดไปถึงมาก่อน
5. The Martian (2015)
นักแสดง: Matt Damon, Jessica Chastain, Kristen Wiig
ประเภทหนัง: Adventure, Drama, Sci-Fi
ผลงานการกำกับของ Ridley Scott (ผู้กำกับ Alien และ Prometheus) จุดเด่นของภาพยนต์เรื่องนี้คือฉากบนดาวอังคารที่สมจริง เนื้อเรื่องที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ดูสนุกตื่นเต้น และลุ้นไปกับตัวเอกที่จะต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังบนดาวอังคารและต้องเอาตัวรอดเพื่อกลับไปยังโลกให้ได้
เรื่องย่อ
ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจสำรวจบนดาวอังคาร นักบินอวกาศ Mark Watney (รับบทโดย Matt Damon) ได้ถูกทีมงานทิ้งเขาไว้เบื้องหลังเพราะคิดว่าเค้าได้ตายไปแล้วเนื่องจากถูกพายุรุนแรงบนดาวอังคารซัดกระหน่ำ แต่ทว่า Mark Watney กลับรอดชีวิต และเหลือเสบียงติดตัวเพียงเล็กน้อย เขาต้องใช้ความเฉลียวฉลาดไหวพริบและจิตใจที่แน่วแน่ เพื่อดำรงชีวิตต่อไป และหาทางส่งสัญญาณให้โลกรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
