Digital Nomads เมื่อโลกหมุนเข้าสู่ยุคดิจิตัลแบบเต็มตัว เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกวงการจำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสยุคดิจิตัล รวมถึงอาชีพซึ่งเป็นแหล่งรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ในอดีตผู้คนต้องตอกบัตร เข้าออฟฟิศ เข้าและเลิกงานตามเวลาที่บริษัทกำหนด
แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจัลเงื่อนไขเหล่านี้เริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนมาถึงในยุคที่เราสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเข้าบริษัท และไม่จำเป็นต้องมีออฟฟิศอีกต่อไป เราเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า “Digital Nomads”
Digital Nomads คืออะไร ? แปลตรงตัวคือ “คนเร่ร่อนดิจิตัล” อาจจะฟังดูแปลกสักหน่อย หรือถ้าเราจะเรียกให้เข้าใจง่ายก็คือ “คนทำงานยุคดิจิตัลแบบไร้ออฟฟิศ” ซึ่งคือกลุ่มคนที่เดินท่องท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการแวะพักหรือปักหลักตามสถานที่สำคัญหรือแหล่งท่องเที่ยว พร้อมกับทำงานและติดต่อสือสารผู้ร่วมงานในแบบดิจิตัล โดยมีความต้องแค่ระบบการสือสารผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้เท่านั้นเป็นพอ
แต่ปัจจัยในเรื่องของค่าครองชีพและความสะดวกสบายในพักอาศัยก็ถือเป็นปัจจัยที่ชาว “Digital Nomads” ให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะไม่เพียงแต่ฟรีแลนซ์ หรือ สายอาชีพหลักอย่าง บล็อกเกอร์ , วิดีโอ ครีเอเตอร์ หรือ โปรแกรมเมอร์ เท่านั้นที่จะจัดเข้ามาอยู่ในกลุ่ม Digital Nomads เพราะในปัจจุบันยังมีทั้ง นักเขียน, ซีอีโอ , ศิลปิน , เจ้าของกิจการ , ดีไซน์เนอร์ ก็สามารถที่จะทำงานในลักษณะนี้ได้
เหล่า Digital Nomads มักเลือกใช้ คาเฟ่ หรือ Co-working space ที่เปิดให้บริการในการพบปะพูดคุยหรือประชุมด้วยระบบทางไกล ซึ่งธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องเหล่านี้กำลังโตได้ดีในเมืองที่ได้รับความนิยมจากชาว Digital Nomads
ประเทศไทยเราซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยว ก็ถือว่าเป็นอีก 1 ประเทศที่ได้รับความนิยมจาก Digital Nomads ด้วยค่าครองชีพที่ถูก และระบบการสื่อสารที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยจังหวัดที่เป็นที่นิยมอาทิ กรุงเทพ , เชียงใหม่ , ภูเก็ต และ ชลบุรี อ้างอิงจากเว็บ nomadlist.com และในกลุ่มประเทศอาเซียนเรา อาทิ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนิเซีย , เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เทรนด์การทำงานแบบไร้ออฟฟิศ กำลังได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองว่าการได้ท่องเที่ยวไปด้วยระหว่างทำงานและสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก
ถือเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน จากผลการสำรวจในสหรัฐอเมริกา ชาว Digital Nomads เพิ่มขึ้นจาก 4.8 ล้านคน เป็น 10.9 ล้านคนหรือกว่าสองเท่าในปี 2020 และ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 32 ปี โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีเกิน $75,000 แต่ดำรงชีวิตด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าการทำงานที่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง และมีเพียง 30% เท่านั้นทีทำงานเกินอาทิตย์ละ 40 ชั่วโมง
อ้างอิง :
https://www.projectuntethered.com/digital-nomad-statistics
https://www.worldpackers.com/articles/best-cities-for-digital-nomads
https://nomadlist.com
